เมื่อพูดถึงจังหวัดทางภาคอีสานของประเทศไทยอย่างสุรินทร์แล้ว หลายคนอาจจะนึกถึงช้างเพราะจังหวัดดังกล่าวนั้นมีช้างอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วจังหวัดดังกล่าวนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เราได้ไปสัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญก็คือเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับประเทศกัมพูชา ดังนั้นจึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมเขมรโบราณที่เราได้รับอิทธิพลมาตั้งแต่สมัยโบราณนั่นเอง สำหรับใครที่สนใจเดินทางไปยังจังหวัดแห่งนี้ Everywheretrip ก็มีแหล่งท่องเที่ยวมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปกัน จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้น ตามเราไปสำรวจกันได้เลย
รวมสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุรินทร์ที่คุณควรไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต

1. แหล่งผ้าไหมยกทองโบราณในบ้านท่าสว่าง
จังหวัดสุรินทร์ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดในภาคอีสานที่มีขึ้นชื่อเกี่ยวกับผ้าซิ่นผ้าไหม ดังนั้นจึงไม่ควรพลาดที่จะแวะไปเยี่ยมชม แหล่งผ้าไหมยกทองโบราณในบ้านท่าสว่าง ซึ่งเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่ผลิตผ้าไหมที่มีความสวยงามไม่แพ้พื้นที่อื่นเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะผ้าไหมยกทองโบราณ เป็นศิลปะบนผืนผ้าที่ได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามและวิจิตรตระการตามากที่สุดอีกรูปแบบหนึ่งของประเทศไทย มีลวดลายที่ซับซ้อนแถมยังต้องใช้วิธีการที่ละเมียดละมัย ใช้เทคนิคการย้อมสีไหมแบบพื้นบ้าน ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นผ้าซิ่นโบราณแต่ก็สามารถขายได้ในราคาที่สูง เนื่องจากเป็นของหายากแถมยังมีกรรมวิธีการทำที่ทำยากและสลับซับซ้อนอีกด้วย จำเป็นที่จะต้องใช้ถึง 1,400 ตะกอเลยทีเดียวโดยจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละลวดลาย โดย 1 ผืนนั้นจะต้องใช้คนทอเป็นจำนวนประมาณ 5 คนจึงจะสามารถทำได้สำเร็จ 1 วันสามารถทำได้ที่ความยาวไม่เกิน 7 เซนติเมตรเท่านั้น ดังนั้นหากเราต้องการผ้าไหมที่มีความยาว 2 เมตรก็ต้องใช้เวลายาวนานถึง 2 เดือน สำหรับใครที่ชื่นชอบศิลปะบนผืนผ้าหรือเป็นผู้สะสมผ้าไทยขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดมาเที่ยวไทยในสถานที่แห่งนี้โดยเด็ดขาด

2. ศาลหลักเมือง
สำหรับใครที่อยากจะเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ต้องไม่พลาดการเดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองให้สมกับการเที่ยวไทยสักหน่อย และสถานที่ที่เราพูดถึงก็คือ ศาลหลักเมืองสุรินทร์ ศาลแห่งนี้ถูกสมโภชขึ้นมาตั้งแต่ในปี 2517 นั่นเอง ความดีงามของสถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตของเราเพียงแค่อย่างเดียวแต่อย่างใด แต่อาคารที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นเป็นงานสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างศิลปะของไทยและเขมรโบราณ ทำให้มันมีความสวยงามแปลกตามากกว่าศาลหลักเมืองในจังหวัดอื่น เป็นแหล่งรวมศรัทธาของผู้คนทั่วทั้งจังหวัดตรงตามเป้าหมายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยสร้างความสามัคคีและความเจริญก้าวหน้าให้ผู้คนในจังหวัดได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข นอกจากนี้มันยังเป็นแหล่งขุดค้นวัตถุโบราณอย่างเครื่องปั้นดินเผาที่มีอายุก่อนยุคประวัติศาสตร์ประมาณ 2,000 ปีที่แล้วกันเลยทีเดียว ปัจจุบันวัตถุโบราณมากล่าวนั้นได้ถูกตั้งเอาไว้เพื่อบูชาภายในศาลหลักเมืองเช่นเดียวกัน

3. ทับหลังศิวนาฏราช ปราสาทศรีขรภูมิ
เดินทางมาเที่ยวไทยในดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ทั้งทีจะไม่มาเที่ยวชมโบราณสถานได้อย่างไร ปราสาทศรีขรภูมิแห่งนี้เป็นปราสาทในยุคโบราณที่มีความสมบูรณ์และงดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งที่เราจะได้เยี่ยมชมความยิ่งใหญ่อลังการและทำให้อดจินตนาการไม่ได้ว่าเมื่อก่อนสถานที่แห่งนี้จะดูงดงามมากขนาดไหน ปราสาทจะกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้หินทราย 5 หลัง ตั้งอยู่บริเวณฐานศิลาแลงที่ยกสูงขึ้นมาขนาดใหญ่ เดิมทีถูกใช้เป็นเทวสถานของลัทธิไศวนิกายศาสนาฮินดู โดยรอบนั้นจะเป็นสนามหญ้าสีเขียวที่ถูกตัดแต่งเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันตัวปราสาทนั้นจะผุพังไปตามกาลเวลาแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังสามารถจินตนาการและสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตอีกด้วย ภายในนั้นก็มีศิลปะวัฒนธรรมที่แฝงให้เราได้เห็นมากมาย ภายในปราสาทหลังใหญ่ตรงกลางนั้นจะมีงานแกะสลักทับหลังที่มีความสวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศ งานภาพถูกแกะสลักอย่างละเมียดละมัยทำให้มันดูวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาดโดยเด็ดขาด

4. หมู่บ้านหัตถการเสวาสินรินทร์
หมู่บ้านหัตถการเสวาสินรินทร์แห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่รวบรวมงานหัตถกรรมที่แสดงถึงความเป็นไทยผสมผสานกับวัฒนธรรมเขมรเข้ากันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีประวัติศาสตร์การอยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนานนับร้อยปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวไทยสัมผัสกับงานศิลปะวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีงานหัตถกรรมที่สวยงามมากมายไม่ว่าจะเป็นลูกปะเกือม เป็นเครื่องเงินที่มีเอกลักษณ์สวยงามและแปลกตา ในขณะเดียวกันขั้นตอนการทำนั้นก็สามารถแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาและความเฉลียวฉลาดของผู้คนในยุคสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีผ้าโฮล เป็นภาษาเขมรที่ในปัจจุบันนั้นรู้จักกันในฐานะของผ้าไหมมัดหมี่ที่ใช้เทคนิคการทอมาจากเขมรโดยส่งต่อกันมาแบบรุ่นสู่รุ่น ใช้เทคนิคการทอผ้าดั้งเดิมโดยจะเน้นการมัดย้อมเส้นไหมให้มีความสวยงามโดยใช้หลักแม่สีและสีจากธรรมชาติทั้งหมด ดังนั้นลวดลายที่ออกมาจึงมีขนาดเล็กและเต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย
คชอาณาจักร สถานที่ท่องเที่ยวเยี่ยมชมช้างในสุรินทร์

มาถึงจังหวัดสุรินทร์ทั้งทีได้เที่ยวไทยแล้วจะไม่มาสัมผัสกับสัตว์ขนาดยักษ์ใหญ่อย่างช้างได้อย่างไร หากคุณไม่ได้สัมผัสกับช้างแล้วก็เหมือนกับว่าคุณไม่ได้เดินทางมาเที่ยวไทยในจังหวัดแห่งนี้แต่อย่างใดเช่นเดียวกัน เราจึงขอแนะนำให้ทุกคนได้ลองเดินทางมายังหมู่บ้านช้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในโลก เดิมทีการเลี้ยงช้างของคนในจังหวัดนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับการท่องเที่ยวแต่อย่างใดแต่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ฝึกสอนช้างมาเป็นแรงงานและยังเป็นเพื่อนเล่นให้กับลูกหลานอีกด้วย ภายในนอกจากจะมีช้างมากมายยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอีกต่างหาก รับรองว่าสายถ่ายรูปเดินทางไปถึงแล้วจะได้รูปสวยๆ กลับบ้านมามากมายอย่างแน่นอน
Add a Comment