ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านและมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน จึงทำให้เรารู้สึกคุ้นหูคุ้นตากับชื่ออาณาจักรพุกามเป็นอย่างดี เนื่องจากชื่อของอาณาจักรดังกล่าวนั้นถูกปรากฏอยู่ในบทเรียนประวัติศาสตร์ของเราไม่มากก็น้อย แต่เชื่อว่าน้อยคนที่จะรู้จักอาณาจักรดังกล่าวในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว เพราะในยุคปัจจุบันอาณาจักรดังกล่าวนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะก่อนที่จะมีการรัฐประหารโดยรัฐบาลทหารในพม่า ถึงแม้ว่าตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านของเราสักเท่าไหร่ แต่ Everywheretrip จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับดินแดนแห่งนี้กัน เมื่อวันหนึ่งที่สถานการณ์กลับมาสงบสุขเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราอาจจะได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ด้วยตาของตนเองก็เป็นได้
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับอาณาจักรพุกาม อาณาจักรที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของพม่าในอดีต
จากที่เราเรียนประวัติศาสตร์กันมานั้นเราจะพบว่าประเทศเพื่อนบ้านของเรานั้นครั้งหนึ่งเคยมีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มากขนาดไหน อย่างเช่นอาณาจักรพุกามที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ก็เป็นอาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในประเทศเมียนมาร์ พวกเขานั้นมีอารยธรรมที่เฟื่องฟูและสามารถพิชิตศึกได้รอบด้าน สามารถรวมแผ่นดินและแผ่นดินน้อยมาเป็นบริวารได้ไม่แพ้ใคร ดังนั้นถึงแม้ว่าทุกวันนี้อาณาจักรดังกล่าวจะเหลือเพียงแค่สิ่งก่อสร้าง แต่มันก็เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับราชวงศ์แรก นั่นก็คือพระเจ้าอโนรธาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรดังกล่าวขึ้นมาบนดินแดนแห่งนี้เป็นครั้งแรกนั่นเอง
อาณาจักรพุกามนั้นมีชื่อเสียงในการท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์มาเป็นระยะเวลายาวนาน แต่ถึงอย่างนั้นชาวเมียนมาร์ก็ต้องรอจนถึงเดือนกรกฎาคมปี 2019 ที่ผ่านมาเลยทีเดียวกว่าที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าดินแดนเจดีย์ 2 พันองค์แห่งนี้ได้รับการขึ้นชื่อเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์กรยูเนสโกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาณาจักรดังกล่าวจึงมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก โดยยุคทองของอาณาจักรดังกล่าวนั้นจะอยู่ที่ประมาณศตวรรษที่ 21 จนถึงศตวรรษที่ 13 ครั้งหนึ่งเป็นแผ่นดินที่มีความเจริญรุ่งเรืองและร่ำรวยมั่งคั่งเป็นอย่างมาก
อาณาเขตแผ่ขยายกว้างใหญ่ไพศาลไปจนถึงศรีลังกา จีน อินเดีย รวมไปถึงพื้นที่ในประเทศไทยของเราเองก็ตาม โดยความมั่งคั่งทั้งหมดที่เมืองแห่งนี้มีน้ำท่วมลงไปในการสร้างศาสนสถาน มีการสันนิษฐานว่าในยุคที่เต็มไปด้วยความรุ่งเรืองนั้นมีการสร้างเจดีย์ขึ้นมาในอาณาจักรแห่งนี้ร่วมกว่าหมื่นองค์เลยทีเดียว แต่ด้วยกาลเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนานทำให้มีบางส่วนพังทลายไป รวมไปถึงผลจากภัยธรรมชาติและสงคราม ทำให้ปัจจุบันจึงเหลือเพียงแค่ 2 พันองค์เท่านั้น มีการนำเอามาจากดังกล่าวไปเทียบกับนครวัดในประเทศกัมพูชาไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งต้องยอมรับว่าอาณาจักรในเมียนมาร์แห่งนี้มีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แต่ถ้าพูดถึงความยิ่งใหญ่อลังการแล้วก็ถือว่ามีความอลังการไม่แพ้กันแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันเองอายุของอาณาจักรแห่งนี้ก็ชวนให้นึกถึงนครวัดได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเวลาเดินทางไปเยี่ยมชมอาณาจักรในเมียนมาร์ดังกล่าวก็คือการนั่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหรือปั่นจักรยานตามทางที่ถึงแม้ว่าจะไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ แต่วิวทิวทัศน์ที่เราจะได้เห็นนั้นสวยงามเป็นอย่างมากเพราะมันคือเจดีย์จำนวนร่วมพันองค์ที่เรียงรายอยู่เต็มไปหมดใกล้กับริมแม่น้ำอิรวดี มีหลากหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กที่สูงไม่เกิน 3 เมตรไปจนถึงขนาดใหญ่อลังการที่มีความสูงร่วม 60 เมตร
เจดีย์ในอาณาจักรแห่งนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรูปทรงระฆัง แต่ก็มีบางองค์เช่นเดียวกันที่แตกต่างออกไป อย่างเช่นเจดีย์ธรรมมายางจีซึ่งมีบันไดที่สามารถขึ้นไปได้คล้ายกับโบราณสถานของชาวมายัน นอกจากนี้ยังมีเจดีย์อนันดาที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเทือกเขานันทมูลซึ่งเป็นหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัยที่มีความสวยงามแตกต่างออกไปอีกด้วย สมัยก่อนนั้นเราสามารถเดินทางเข้าไปรับชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกโดยปีนเจดีย์ได้เลย แต่หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อไม่นานที่ผ่านมา เพื่อความปลอดภัยทั้งกับตัวนักท่องเที่ยวเองรวมไปถึงกับโบราณสถาน รัฐบาลจึงไม่อนุญาตให้ปีนขึ้นไปได้อีก แต่มีการสร้างเนินดินให้เราสามารถยืนรับชมได้เหมือนเดิม หรือหากใครมีงบประมาณเพิ่มขึ้นมาสักหน่อยจะขึ้นบอลลูนเพื่อรับชมวิวก็ได้เช่นเดียวกัน
พุกาม มรดกโลกที่ยิ่งใหญ่แต่กลับไม่มีใครเดินทางไปท่องเที่ยว
อาณาจักรพุกามเป็นอาณาจักรที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในเมียนมาร์แต่กลับไม่ค่อยมีใครเดินทางไปท่องเที่ยวชมความสวยงามสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าความจริงแล้วในตอนนี้ประเทศเมียนมาร์ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศของตนเองได้แล้วหลังจากที่มีการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้สำเร็จในช่วงเดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมา แต่เพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มั่นคงสักเท่าไหร่ทำให้นักท่องเที่ยวกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับตนเองขึ้นจึงตัดสินใจพักการท่องเที่ยวในประเทศแห่งนี้ไปก่อน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยเองก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกันที่ตัดสินใจระงับแผนการเดินทางไปยังประเทศดังกล่าวจากเหตุผลเรื่องความปลอดภัย เพราะจนถึงตอนนี้สถานการณ์ในประเทศก็ยังไม่สงบเท่าที่ควร ดังนั้นสำหรับใครที่อยากจะไปเยี่ยมชมความงดงามของอาณาจักรโบราณคงต้องรอให้สถานการณ์การเมืองภายในประเทศเมียนมาร์สงบลงเสียก่อนจึงจะปลอดภัยที่สุด
