หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการอ่านนวนิยายแนวโรแมนติก ต้องมีสักครั้งที่ได้เห็นฉากหลังหรือการบรรยายเนื้อเรื่องในทะเลทราย ถึงแม้ว่าสถานที่ดังกล่าวจะเวิ้งว้างว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย แต่มันกลับสามารถสร้างความรู้สึกโรแมนติกได้อย่างน่าประหลาด แถมยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่เหล่าบรรดาคู่รักมักเดินทางไปท่องเที่ยวกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการไปฮันนีมูนหรือแม้แต่การขอแต่งงาน ถึงแม้ว่าประเทศไทยของเราจะไม่มีทะเลทรายให้ได้เดินทางไปท่องเที่ยวกัน แต่ทั่วทั้งโลกนั้นมีดินแดนสุดเวิ้งว้างมากมายให้เราได้ไปสัมผัส จะมีที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ วันนี้ Everywheretrip จะพาทุกคนไปสำรวจกัน ไปติดตามกันได้เลย
แนะนำทะเลทรายที่ยิ่งใหญ่ทั่วโลกให้คุณได้ไปเยี่ยมชม
1. GOBI
เริ่มต้นกับสถานที่ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเราซักเท่าไหร่ หากคุณมีโอกาสได้ไปเที่ยวในประเทศจีนหรือมองโกเลีย เราขอแนะนำทะเลทรายโกบี (Gobi) เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขาหิมาลัย ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนและอยู่ติดกับทางตอนใต้ของมองโกเลีย สถานที่แห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ด้วยพื้นที่กว่า 1.259 ล้านตารางกิโลเมตร ครั้งหนึ่งเคยเป็นเส้นทางสายไหมแถมยังเป็นแหล่งค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เราสามารถบินไปยังเมืองหลวงของมองโกเลียแล้วขึ้นเครื่องบินภายในประเทศไปลงที่ DALANZADGAD ภายในสนามบินนั้นจะมีการนำเสนอทัวร์พารับชมและท่องเที่ยวโกบีคอยให้บริการอยู่ เราสามารถเลือกได้ตามความต้องการเลย
2. ATACAMA
มาต่อกันที่ ATACAMA ดินแดนที่ตั้งอยู่ในประเทศชิลี ประเทศที่หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความยาวมากที่สุดบนโลกใบนี้ สถานที่แห่งนี้มีความแห้งแล้งมากที่สุดในโลก จนแทบจะไม่มีมีพืชพันธุ์ใด ๆ สามารถเติบโตขึ้นได้เลย นอกจากนี้ยังกินพื้นที่ไปถึงประเทศอาร์เจนตินา เปรู และโบลิเวียอีกด้วย ขึ้นชื่อในฐานะของแหล่งผลิตเกลือ ถึงแม้ว่าจะไม่มีพืชพันธุ์ใด ๆ เติบโตขึ้นได้ จนทำให้แห้งแล้งเหมือนกับอยู่บนดาวอังคาร แต่ก็มีสิ่งมีชีวิตให้เราได้เห็นอยู่บ้างเช่นกันอย่างเช่น กิ้งก่าหลากหลายสายพันธุ์ นกกระจอก นกฟลามิงโก้ รวมไปถึงนกฮัมมิ่งเบิร์ด เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้อยู่ติดกับมหาสมุทร ทำให้ยังพอที่จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้บ้างนั่นเอง เราสามารถเดินทางไปยังที่นี่ได้ด้วยเครื่องบินจากสนามบิน SANTIAGO ไปลงที่ EL LOA CALAMA จะมีบริการเช่ารถรับส่งหรือรถบัสเดินทางไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เลยทีเดียว ไม่ต้องยุ่งยากสามารถเที่ยวได้แบบง่าย ๆ
3. THAR
ธาร์ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับคนที่อยากจะเที่ยวแต่ก็ไม่อยากไปไกลจากบ้านสักเท่าไหร่ เนื่องจากทะเลทรายธาร์กินอาณาเขตในประเทศอินเดียและปากีสถานเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับที่อื่น แถมอากาศก็ยังไม่ได้ร้อนเท่ากับที่อื่นอีกด้วย แต่สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมจากวัฒนธรรมและอารยธรรมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แถมยังมีประชากรอาศัยอยู่ถึง 83 คนต่อตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้มันยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกจำนวนมากกว่า 140 สายพันธุ์ มีกิ่งก่าและงูอีกมากมาย รวมไปถึงเนื้อทรายอินเดียที่หารับดูได้ยาก และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังและป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่
4. GREAT VICTORIA
ใครที่เดินทางไปเที่ยวประเทศออสเตรเลียเราขอแนะนำ ทะเลทรายเกรตวิกตอเรีย สถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่เวิ้งว้างและกว้างใหญ่ที่สุดในทวีปออสเตรเลีย มีพื้นที่มากกว่า 4.22 แสนตารางกิโลเมตร กินพื้นที่ตั้งแต่ทิศตะวันตกจรดทิศใต้ของประเทศ มีทั้งเนินทราย ที่ราบทุ่งหญ้า ทะเลสาบน้ำเค็ม เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์มากมายตั้งแต่นกแก้ว, งู, อูฐ, หนูพุก และวอลลาบี้ รับรองว่าไปแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะออสเตรเลียนั้นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องการท่องเที่ยวธรรมชาติและสัตว์ป่าอยู่แล้ว
5. GREAT BASIN
GREAT BASIN DESERT เหมาะสำหรับคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วต้องการจะสัมผัสกับสถานที่ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เพราะที่นี่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เนื่องจากถูกล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาร็อกกี้และเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา ฝั่งตอนเหนือนั้นจะเป็นที่ราบสูงโคลัมเบีย ดังนั้นที่นี่จึงไม่ได้มีอากาศร้อนระอุเหมือนกับภาพจำของเราแต่อย่างใด แถมยังมีอากาศหนาวเหน็บตลอดทั้งปีอีกด้วย ยิ่งฤดูหนาวสถานที่แห่งนี้ยิ่งเย็นจัดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไปอีก มีสัตว์มากมายที่เราไม่สามารถพบเห็นได้ตามสถานที่ทั่วไปในโลกอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ด้วยสภาวะอากาศที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ อยู่ไม่ไกลจากลาสเวกัสสักเท่าไหร่ สามารถเดินทางด้วยการเช่ารถหรือจะใช้บริการทัวร์ก็ได้ เช่นเดียวกัน
SAHARA ทะเลทรายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกใบนี้
หากพูดถึงทะเลทราย เราเชื่อว่าเชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึง SAHARA อย่างแน่นอน นั่นก็เป็นเพราะว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก กินพื้นที่อาณาบริเวณมากกว่า 9.2 ล้านตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13 ประเทศในฝั่งแอฟริกาเหนือ พื้นที่ขนาดนั้นเกือบจะเทียบเท่ากับประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อว่ามีอากาศร้อนมากที่สุดในโลกอีกด้วย ในขณะที่ช่วงเวลากลางคืนนั้นอุณหภูมิจะหนาวจัดเป็นอย่างมาก
หลายคนมีภาพจำว่า สถานที่แห่งนี้จะต้องมีเนินทรายที่ยิ่งใหญ่อลังการสุดลูกหูลูกตา แต่ความเป็นจริงแล้วพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นจะถูกปกคลุมด้วยหินมากกว่า แถมในบางพื้นที่ก็ยังสามารถมีพุ่มไม้ขึ้นได้อีกด้วย เป็นภูมิประเทศที่ค่อนข้างที่จะมีความหลากหลาย ดังนั้นจึงมีพืชพรรณและสัตว์ป่าหลายชนิดเลยทีเดียวที่อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เราสามารถเดินทางไปยังที่นี่ได้ด้วยการโดยสารรถยนต์มาจากเมืองหลวงในโมร็อกโกได้เลย
Add a Comment